กงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู พร้อมคณะเข้าพบหารือกับอธิบดีสำนักงานการต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

กงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู พร้อมคณะเข้าพบหารือกับอธิบดีสำนักงานการต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

วันที่นำเข้าข้อมูล 16 ส.ค. 2567

| 80 view

เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๗ นายเสก นพไธสง กงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู พร้อมด้วยนางกุลธิดา บัณฑุรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู นางเพ็ญประภา ชูสงค์ รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครเฉิงตู และคณะได้เข้าพบหารือกับนายเจียง ปิน (Mr. Jiang Bin) อธิบดีสำนักงานการต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและนครเฉิงตู

ในการนี้ อธิบดีฯ ได้กล่าวต้อนรับ กงสุลใหญ่ฯ พร้อมคณะ และได้กล่าวถึงภาพรวมของนครเฉิงตู ซึ่งในปี ๒๕๖๖ นครเฉิงตูมี GDP อยู่ที่ ๒.๒๑ ล้านล้านหยวน ประมาณ ๓๑๑.๒๗ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่อันดับที่ ๗ ของประเทศ พร้อมกล่าวเสริมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ในนครเฉิงตูที่มีการผลิตถึง ๖ ล้านคัน ซึ่งมีมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศจีน อีกทั้งนครเฉิงตูยังถูกจัดให้เป็นเมืองที่น่าดึงดูดสำหรับการลงทุนติดต่อกันเป็นเวลา ๑๐ ปีซ้อน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนครเฉิงตูในการที่จะยกระดับมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ทั้งนี้ อธิบดีฯ ยังกล่าวถึงที่การมีส่วนร่วมในการสร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม พร้อมการสนับสนุนการดำเนินงานของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกันในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โอกาสครบรอบ ๕๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน อีกทั้งยังแสดงความพร้อมที่จะสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษาและวัฒนธรรมของประเทศไทยและนครเฉิงตูมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

กงสุลใหญ่ฯ ได้แสดงความขอบคุณอธิบดีฯ ที่ให้เกียรติเข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ที่สถานกงสุลใหญ่ฯ จัดขึ้น และได้กล่าวถึงหลักแนวคิดการทำงาน "4C 2P” ของสถานกงสุลใหญ่ฯ ซึ่งได้แก่ (๑) Consular (๒) Connectivity (๓) Commerce (๔) Culture (๕) Politics และ (๖) Protocol โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยและนครเฉิงตู (Connectivity) ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มพูนผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ นอกจากนั้น กงสุลใหญ่ฯ ยังได้กล่าวถึงหลักการทำงาน “๗๒ ๕๐ ๒๐” ของสถานกงสุลใหญ่ฯ นั่นคือ (๑) ๗๒ คือการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ (๒) ๕๐ คือครบรอบ ๕๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในปี ๒๕๖๘ และ (๓) ๒๐ คือครบรอบการก่อตั้งสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู ในปี ๒๕๖๘ ทั้งนี้ กงสุลใหญ่ฯ ยังได้กล่าวเสริมถึงการส่งเสริมนโยบาย IGNITE Thailand ที่จะเป็นนโยบายสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนามิติต่าง ๆ ของประเทศไทยกับนานาประเทศ โดยเฉพาะใน ๕ ด้านกับประเทศจีน ซึ่งรวมถึงมณฑลเสฉวนและนครเฉิงตู ได้แก่ (๑) ด้านการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว (Tourism Hub) (๒) ด้านการเป็นศูนย์กลางเกษตรและอาหาร (Articulture & Food Hub) (๓) ด้านการเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) (๔) ด้านการเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) และ (๕) ด้านการเป็นศูนย์กลางการขนส่งภูมิภาคหรือโลจิสติกส์ (Logistic Hub)

การเข้าพบหารือกันในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและความร่วมมือที่ยั่งยืนระหว่างประเทศไทยและนครเฉิงตู ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างประโยชน์ร่วมกันให้กับประชาชนทั้งสองประเทศในระยะยาว

1นายเสก นพไธสง กงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู พร้อมคณะ เข้าพบหารือกับนายเจียง ปิน (Mr. Jiang Bin) อธิบดีสำนักงานการต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

2   ท่านที่ (๑) นางสาวณัฐฐ์สิริ นิ่มยี่สุน รองกสุลใหญ่ (๒) นายเสก นพไธสง กงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู (๓) นางกุลธิดา บัณฑุรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู (๔) นางเพ็ญประภา ชูสงค์ รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครเฉิงตู

3  นายเจียง ปิน (Mr. Jiang Bin) อธิบดีสำนักงานการต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

4   5  กงสุลใหญ่ฯ มอบของที่ระลึกแก่อธิบดีสำนักงานการต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู