เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน กรมศุลกากรมหานครฉงชิ่งรายงานว่า ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มูลค่าการนำเข้าและส่งออกการค้าระหว่างประเทศของมหานครฉงชิ่งอยู่ที่ 52,330 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 15.1 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทว่า มูลค่าการนำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศโดยรวมในช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม มีมูลค่า 219,210 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 

จากข้อมูลสถิติในเดือนพฤษภาคม มูลค่าการส่งออกการค้าระหว่างประเทศของมหานครฉงชิ่งอยู่ที่ 33,400 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.9 การนำเข้าอยู่ที่ 18,920 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9 ส่วนการส่งออกโดยรวมระหว่างเดือนมกราคม – พฤษภาคม มีมูลค่า 134,210 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 4.4 และการนำเข้ามีมูลค่า 85,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1

นอกจากนั้น กรมศุลกากรมหานครฉงชิ่งยังระบุด้วยว่า การนำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศของมหานครฉงชิ่งมีการปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการส่งออกของคอมพิวเตอร์ แผงวงจรรวม และรถยนต์ในช่วง 5 เดือนแรกเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การส่งออกคอมพิวเตอร์มีมูลค่ากว่า 196,340 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 7.6 ขณะเดียวกัน การส่งออกแผงวงจรรวมมีมูลค่า 9,660 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.6 และปริมาณการส่งออกรถยนต์สูงถึง 40,000 คัน เติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 24.2

ในช่วง 5 เดือนแรก การนำเข้าและส่งออกของผู้ประกอบการข้ามชาติและองค์กรเอกชนมีมูลค่า 127,040 ล้านหยวน และ 73,950 ล้านหยวน ตามลำดับ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 และร้อยละ 2.7 ตามลำดับ นอกจากนั้น การค้าขายสินค้าแปรรูปเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ ตามสถิติระบุว่า การนำเข้าและส่งออกสินค้าแปรรูปในช่วง 5 เดือนแรก มีมูลค่ากว่า 110,730 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 และคิดเป็นร้อยละ 50.5 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของมหานครฉงชิ่ง