วันที่นำเข้าข้อมูล 11 ม.ค. 2564
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565
ข้อมูลพื้นฐานนครฉงชิ่ง
ที่ตั้ง / ขนาดพื้นที่ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ และตอนบนของแม่น้ำแยงซี ระหว่างลองติจูดที่ 105º17' - 110º11' ตะวันออกและละติจูดที่ 28º10' - 32º13' เหนือ มีพื้นที่ 82,400 ตารางกิโลเมตร ลักษณะเป็นพื้นที่สูง ร้อยละ 76 ของภูมิประเทศเป็นเนินเขาและภูเขา ทางด้านทิศเหนือติดกับมณฑลหูเป่ย ทางด้านทิศตะวันออกติดกับมณฑลหูหนาน ทางทิศใต้ติดกับมณฑลกุ้ยโจว และทางทิศตะวันตกติดกับมณฑลเสฉวน และมณฑลส่านซีทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับที่ตั้งของนครฉงชิ่ง จัดเป็นบริเวณสำคัญสำหรับรัฐบาลจีนในการดำเนินแผนการพัฒนาจีนตะวันตก ในการที่จะเร่งพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคตอนกลางและภูมิภาคตะวันตกของประเทศ
เมื่อปี 2540 นครฉงชิ่งได้แยกออกจากมณฑลเสฉวนและได้รับการยกระดับขึ้นเป็นนครขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง (เป็น 1 ใน 4 นครของจีน ซึ่งประกอบด้วย กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ นครเทียนจิน) โดยเป็นกรุง/ นครที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เพื่อให้นครฉงชิ่งเป็นเมืองหลักในการกระจายความเจริญสู่พื้นที่อื่น ๆ ในภาคตะวันตกของจีน
ข้อมูลประชากร มีจำนวนประชากรประมาณ 31.24 ล้านคน (ตัวเลข ณ วันที่ 6 มกราคม 2564) ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวฮั่น และประกอบด้วยชนชาติพันธุ์ต่าง ๆ อาทิ ชาวถูเจีย แม้ว ฮุย หยี ทิเบต จ้วง เชียง มองโกล ลีซอ แมนจู น่าซี ไป๋ ไต ปูยี ตง อุยกูร์ เกาหลี ฮานิ อี้เหลา และว้า เป็นต้น
สภาพภูมิอากาศ ลักษณะอากาศเป็นแบบเขตกึ่งร้อนชื้น อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 18 องศาเซลเซียส ฤดูหนาวอุณหภูมิประมาณ 6 - 8 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนอุณหภูมิประมาณ 27 - 29 องศาเซลเซียส มีปริมาณแสงแดดประมาณ 1,000 - 1,200 ชั่วโมงต่อปี และปริมาณน้ำฝนประมาณ 1,000 - 1,400 มม. ต่อปี เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ลาดชันระหว่างหุบเขาทำให้ลักษณะอากาศเป็นอากาศแบบปิด เมื่อมีการปล่อยควันออกจากโรงงานหรือจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ทำให้ควันต่าง ๆ ระบายตัวออกได้ช้า จึงมีลักษณะอากาศเหมือนมีหมอก
ทรัพยากรสำคัญ มีพืชพันธุ์ธรรมชาติ สัตว์หายาก และสัตว์อนุรักษ์อยู่จำนวนมาก พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ข้าว ข้าวโพด ข้าวสาลี มันเทศ ยาสูบ ชา ถั่วลิสง ธัญพืช และพืชน้ำมัน นอกจากนี้ ยังมีพืชสมุนไพรกว่า 2,000 ชนิด มีแร่ธาตุประมาณ 75 ชนิด แหล่งแร่ Strontium มากที่สุดในจีน และมีแร่แมงกานีสมากเป็นอันดับ 2 ของจีน นอกจากนั้น แหล่งพลังงานหลักที่ใช้ในนครฉงชิ่งคือพลังงานจากก๊าซธรรมชาติ โดยมีการวางระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติและแผงวงจรควบคุมการทำงานของเมืองที่ทันสมัย สามารถตรวจสอบการใช้งานและแจ้งเตือนเมื่อระบบการส่งก๊าซเกิดปัญหาขัดข้อง
การแบ่งพื้นที่เขตปกครอง นครฉงชิ่งแบ่งส่วนการปกครองออกเป็น 38 เขตการปกครองย่อย ประกอบด้วย
รายชื่อผู้บริหารฝ่ายการเมืองนครฉงชิ่ง
陈敏尔 Mr.Chen Min Er นายเฉิน หมินเอ่อ
เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครฉงชิ่ง
唐良智Mr. Tang Liangzhi นายถัง เหลียงจื้อ
นายกเทศมนตรี รัฐบาลประชาชนนครฉงชิ่ง
รองเลขาธิการพรรคฯ นครฉงชิ่ง นายกเทศมนตรีนครฉงชิ่ง
3.ข้อมูลทางเศรษฐกิจ
ความโดดเด่นทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ 1 เขตเศรษฐกิจใหม่เหลี่ยงเจียง 2. เขตอุตสาหกรรมเทคโนโลยีซีหย่ง และ 3 ท่าเรือกว่อหยวน
ตัวเลขทางเศรษฐกิจ
ธุรกิจไทยที่มาลงทุนในนครฉงชิ่ง
วิสาหกิจนครฉงชิ่งที่มาลงทุนในไทย
การคมนาคม
เมื่อปี 2562 รัฐบาลจีนได้ออก “แผนแม่บทสำหรับเส้นทางการขนส่งทางบกและทางน้ำสำหรับภูมิภาคตะวันตก” ระบุว่า รถไฟ 3 สาย ที่มีเส้นทางจากนครฉงชิ่งและนครเฉิงตู ผ่านไปยังเมืองกุ้ยหยาง ในมณฑลกุ้ยโจวเมืองฮว๋ายฮว่า มณฑลหูหนาน และเมืองไป๋เซ่อ ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง จนถึงท่าเรืออ่าวเป่ยปู้ (ท่าเรือชินโจว ท่าเรือเป๋ยไฮ่และท่าเรือฝางเฉิง) จะต้องมีการขนส่งตู้สินค้าทุกวันและเชื่อมต่อเส้นทางร่วมกับรถไฟสายจีน - ยุโรปอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรวมกันเป็นช่องทางหลักในการขนส่งทั้งแบบเส้นทางรางและทางน้ำแห่งใหม่ของภูมิภาคตะวันตก
เขตฝูหลิงเป็นเส้นทางหลักด้านทิศตะวันออกของเส้นทางขนส่งทางรางและทางทะเลแห่งใหม่ในภูมิภาคตะวันตกของจีน ทำให้การพัฒนาด้านค้าระหว่างประเทศในเขตฝูหลิงประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในปี 2562 การนำเข้าและส่งออกของเขตการค้าระหว่างประเทศเขตฝูหลิงมีมูลค่าถึง 8,400 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 51 จากปี 2561 ปริมาณสินค้านำเข้าและส่งออกสูงถึง 265,000 ตัน มีจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ 10,889 ตู้
ผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกล่าวว่า “การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเส้นทางรถไฟจากเขตฝูหลิง นครฉงชิ่ง ไปยังท่าเรือชินโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงนั้น จะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และภาคบริการของเขตฝูหลิงให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องได้” หลังจากเปิดตัวรถไฟขบวนนี้ ทำให้เขตฝูหลิงกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญอีกช่องทางหนึ่งของภูมิภาคตะวันตก การขนส่งระบบรางและทางทะเลของเขตฝูหลิงและพื้นที่ใกล้เคียงสามารถเริ่มบรรทุกสินค้าที่เขตฝูหลิงและขนส่งไปยังท่าเรือชินโจวได้โดยตรง เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งและลดต้นทุนด้านการกักเก็บสินค้า
ในขั้นต่อไปจะมีการขยายแหล่งรับสินค้าให้มากขึ้น มีขบวนรถไฟขนส่งสินค้าจากเขตฝูหลิงไปยังท่าเรือชินโจวเป็นประจำ โดยจะมีการขนส่ง 1 เที่ยว/ สัปดาห์ ในขั้นต้น และจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เที่ยว/สัปดาห์ ในขั้นต่อไป ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการและความสามารถของแหล่งผลิตสินค้าด้วย
การคมนาคมทางด้านอากาศ
จากรายงานการบินพลเรือนในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ระบุว่า นับตั้งแต่เกิดการระบาดทำให้อุตสาหกรรมการบินของจีนชะลอตัวลงในเดือนกุมภาพันธ์ และเริ่มฟื้นฟูการดำเนินงานใหม่อีกครั้งระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายน โดยในเดือนพฤษภาคมปริมาณการบินของเส้นทางในประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปริมาณเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกเฉลี่ยสูงสุดถึง 21,732 เที่ยว/วัน เฉลี่ยสูงกว่าสหรัฐฯ กว่าร้อยละ 35 ในเดือนพฤษภาคม นอกจากนั้นอัตราการลำเลียงผู้โดยสารภายในประเทศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการใช้งานเฉลี่ย 4.35 ชั่วโมง/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.55 จากเดือนเมษายน แต่อัตราการลำเลียงผู้โดยสารระหว่างประเทศกลับมีอัตราเพียงร้อยละ 20.3 เท่านั้น
ภายใต้สถานการณ์ที่ได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 สนามบินทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบในระดับที่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด - 19 ของรัฐบาลจีนที่สามารถดำเนินการได้ดี ทำให้ธุรกิจการบินกลับมาเริ่มดำเนินการได้ตามปกติ สนามบินนานาชาติฉงชิ่ง เจียงเป่ย (CKG) ในนครฉงชิ่ง ได้ฟื้นตัวกว่าร้อยละ 77 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน นครฉงชิ่งได้มีแผนก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร T3B และโครงการรันเวย์แห่งที่ 4 คาดว่าโครงการจะเสร็จสิ้นในปี 2567 สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ 80 ล้านคน/ ปี ปริมาณการขนส่งสินค้า 1.2 ล้านตัน/ ปี และปริมาณการบินขึ้นและลงของเครื่องบิน 580,000 เที่ยว คาดว่าจะช่วยส่งเสริมการสร้างเขตวงกลมเศรษฐกิจเฉิงตู – ฉงชิ่ง และผลักดันให้นครฉงชิ่งกลายเป็นผู้นำในการเปิดกว้างของภูมิภาคตะวันตก
เมืองสำคัญและเขตเศรษฐกิจของนครฉงชิ่ง
One-hour Economic Circle: (พื้นที่รอบใน) คือพื้นที่ที่ใช้เวลาเดินทางจากใจกลางเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นเขตที่รัฐบาลมุ่งเน้นพัฒนาด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอุตสาหกรรม บริการ และการสร้าง Industrial Cluster เพื่อผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์สำหรับส่งจำหน่ายภายในประเทศ
Wings: ประกอบด้วย
พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือตามเส้นทางเขื่อนสามโตรก (ซานเสี่ย) โดยรัฐบาลให้การสนับสนุนในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับการเกษตร การท่องเที่ยว และป่าไม้
พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ 6 เขตการปกครองตนเอง เป็นเขตพื้นที่อาศัยของชนกลุ่มน้อย โดยเน้นทางด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Ecological Tourism)
การวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ของเขตวงกลมเศรษฐกิจเฉิงตู - ฉงชิ่ง มีการบริหารแบบสองศูนย์ เพื่อพัฒนาเป็น (1) ศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ สร้างศูนย์กลางการลงทุนแห่งใหม่ สร้างแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทั้งในระดับมณฑล ระดับประเทศ และระดับนานาชาติ สร้างศูนย์อุปโภคบริโภคระดับนานาชาติ และสร้างฐานข้อมูลทางเศรษฐกิจดิจิทัล และ (2) ศูนย์กลางด้านนวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลระดับประเทศ สร้างเมืองวิทยาศาสตร์แห่งภูมิภาคตะวันตกที่นครเฉิงตู และสร้างเมืองวิทยาศาสตร์ระดับประเทศที่เมืองเหมียนหยาง นอกจากนั้น เขตวงกลมเศรษฐกิจดังกล่าว จะผลักดันการพัฒนาการเปิดสู่ภายนอก สร้างเขตสาธิตด้านนวัตกรรม เขตลงทุนการค้าระดับนานาชาติสำหรับภูมิภาคตะวันตก และสร้างศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนระดับนานาชาติ รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมด้านการลงทุน และทัศนียภาพของเมืองที่งดงามด้วย
ความสัมพันธ์ไทย-ฉงชิ่ง
- การแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง
ฉงชิ่ง - ไทย เสริมสร้างความร่วมมือทางทวิภาคี ยกระดับความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2554 สำนักข่าวจงซิน นครฉงชิ่ง รายงานว่า คณะกรรมาธิการนครฉงชิ่งได้เข้าร่วมประชุมในการเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับไทย ครั้งที่ 3
นายจู ซีเหยียน ผู้อำนวยการสำนักงานต่างประเทศของรัฐบาลนครฉงชิ่งกล่าวว่าประเทศไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของจีนและเป็นสมาชิกที่สำคัญของอาเซียน นับตั้งแต่การเปิดตัวเต็มรูปแบบของเขตการค้าเสรีอาเซียนฉงชิ่งก็ได้ร่วมมือกับไทยในด้านต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจการค้า วัฒนธรรม การศึกษาและการท่องเที่ยว เป็นต้น
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2554 นายกเทศมนตรีนครฉงชิ่ง ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย ในการร่วมมือเพื่อยกระดับความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง แสวงหาโอกาสในการลงทุนทางเศรษฐกิจและการค้าในกลุ่มประเทศอาเซียน
ปัจจุบันในกลุ่มเครือโภคภัณฑ์ไทยได้จัดตั้งซุปเปอร์มาเก็ตโลตัส 10 แห่งในนครฉงชิ่ง ทั้งนี้ นครฉงชิ่งยังได้ลงนามข้อตกลงที่จะจัดตั้งเที่ยวบินตรงระหว่างฉงชิ่ง - กรุงเทพฯ และได้มีการลงทุนเขตสินค้าเกษตรแปรรูป และโลจิสติกส์อาซียนในพื้นที่ใหม่ในนครฉงชิ่ง
- ความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนกับไทย
- ความสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว
ปี 2562 นครฉงชิ่งถูกจัดอันดับให้อยู่ในลำดับที่ 2 ของภาคตะวันตกประเทศจีนที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนไปไทยมากที่สุด
สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้มีการส่งเสริมคุณภาพการท่องเที่ยวและเปิดตัวผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ทั้งนี้ นครฉงชิ่งยังได้มีการจัดกิจกรรม มหัศจรรย์เมืองไทย เพื่อส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวที่ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ปี 2562 นักท่องเที่ยวจีนได้เดินทางไปยังประเทศไทยมีจำนวนประมาณ 10 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 ต่อปี โดยนครฉงชิ่งติดเป็นอันดับ 2 ของภาคตะวันตกประเทศจีนที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนไปไทยมากที่สุด จำนวน 500, 000 คน ลดลงร้อยละ 7.41 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ตและ เกาะเสม็ด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของนักท่องเที่ยวจีน (ฉงชิ่ง)
โครงการมหัศจรรย์เมืองไทยได้ดำเนินอยู่ในประเทศจีนมาเป็นระยะเวลาเกือบ 20 ปี และการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระหว่างไทย - ฉงชิ่งอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติ จะยังคงร่วมมือกับสื่อและอุตสาหกรรม เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวของไทยและส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจต่อไป
- ความสัมพันธ์ด้านการศึกษา
- มหาวิทยาลัยซีหนาน นครฉงชิ่งได้มีการทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศไทยทางภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยปัจจุบันนี้ มีนักศึกษาไทยที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยซีหนานจำนวน 600 คน
มหาวิทยาลัยซีหนาน นครฉงชิ่งและมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประเทศไทยได้จัดตั้งสถาบันขงจื้อร่วมกัน โดยสถาบันขงจื้อถือเป็นหนึ่งในสิบสถาบันที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้ง ยังได้มีการจัดตั้งห้องเรียนขงจื้อร่วมกับโรงเรียนมัธยมกั๋วกวงหาดใหญ่ ซึ่งมีชื่อเสียงและได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย
มหาวิทยาลัยซีหนาน นครฉงชิ่งได้มีการทำความร่วมมือกับสถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และ บุคลากรทางการศึกษา (NIDTEP) ในด้านต่าง ๆ อาทิ การยื่นขอทุนการศึกษาในโครงการเส้นทางสายไหมการฝึกอบรมผู้บริหารการศึกษาและเจ้าหน้าที่ทางการศึกษา เป็นต้น ทั้งนี้ได้มีการจัดอบรมในโครงการฝึกอบรมด้านบุคลากรทางการศึกษาร่วมกันมาแล้ว 3 ครั้ง และถือเป็นโครงการระดับสูงที่ช่วยยกระดับแวดวงทางการศึกษาไทย - จีน
- มหาวิทยาลัย Sichuan International Studies University (SISU) ได้ก่อตั้งภาควิชาภาษาไทยเมื่อปี 2559 ซึ่งนับเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในนครฉงชิ่งที่มีภาควิชานี้ ปัจจุบัน SISU มีนักศึกษาจีนที่เรียนวิชาเอกภาษาไทย (รวม 4 ชั้นปี) 94 คน
- ความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง/เมืองมิตรภาพระหว่างเมืองในมณฑลฉงชิ่งกับจังหวัดต่างๆ ของไทย
ความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างเมืองต่าง ๆ ของมณฑลฉงชิ่งกับจังหวัดต่าง ๆ ของไทยมีพัฒนาการที่ก้าวหน้ามาก
เมืองพี่เมืองน้องระหว่างไทยกับฉงชิ่งที่มีการสถาปนาแล้วมี 2 คู่ ได้แก่ (1) กรุงเทพฯ - นครฉงชิ่ง และ (2) จ.เชียงใหม่ - นครฉงชิ่ง
โอกาศความร่วมมือกับประเทศไทย
- ปัจจุบัน นครฉงชิ่งต้องการผลักดันการพัฒนาร่วมกับข้อริเริ่มแถบและเส้นทางและเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี เร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมภายใต้การค้าข้ามพรมแดน สร้างช่องทางการขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ เพื่อผลักดันให้เกิดการไหลเวียนของผู้คน เงินทุน และสินค้า พร้อมกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งทั้งในและต่างประเทศ เป็นสะพานเชื่อมการขนส่งไปยังอาเซียนและยุโรป และสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล
- นครฉงชิ่งกำลังเร่งการสร้างระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูง แสวงมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศที่มีชื่อเสียงด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมการเกษตร วิชาชีพทางการแพทย์ เพื่อตั้งศูนย์ฝึกอบรมผู้มีความสามารถพิเศษในด้านดังกล่าว สนับสนุนและสร้างมาตรฐานการศึกษาร่วมกับสถาบันฝึกอบรมของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จากการศึกษาออนไลน์เพื่อขยายวงกว้างด้านการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ นอกจากนั้น จะเพิ่มขีดความสามารถและสัดส่วนด้านการศึกษาสายอาชีพและเทคนิค พร้อมสร้างความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาและสถานฝึกงานทั้งในและต่างประเทศ
การจัดตั้งหอการค้า
ไม่มีการจัดตั้งสภาหอการค้า หรือสมาคมธุรกิจไทยในนครฉงชิ่ง
ชุมชนไทย
สมาคมนักเรียนไทย ณ นครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน (泰国驻重庆留学生联合会/ Thai Student Association in Chongqing) ซึ่งมีนายธนทัต สาใจ ประธานสมาคมฯ มีสมาชิกจำนวนกว่า 500 คน เพื่อเป็นสถานที่รวมตัวของกลุ่มนักเรียน/นักศึกษาไทย ที่มาศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยฉงชิ่ง เป็นหน่วยงานการประสานงานและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่นักเรียน/นักศึกษาไทย เปิดโอกาสให้นักเรียน/นักศึกษาไทยได้จัดกิจกรรมเผยแพร่วัฒนธรรมและกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ ได้อย่างมีศักยภาพ
ช่องทางการติดต่อ อีเมล : [email protected]
Facebook: https://www.facebook.com/สมาคมนักศึกษาไทย-ณ-มหาวิทยาลัยฉงชิ่ง-173587665375/ และที่อยู่ : ห้องไทยศึกษา คณะนานาชาติ มหาวิทยาลัยซีหนาน /International college of South west university Tiansheng2nd Rd., Beibei District, Chongqing, PR.China 400175
***************