รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวนำสื่อมวลชนจีนติดตามการจัดทำมาตรการรักษาความปลอดภัยทางทะเล สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวจีน

รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวนำสื่อมวลชนจีนติดตามการจัดทำมาตรการรักษาความปลอดภัยทางทะเล สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวจีน

วันที่นำเข้าข้อมูล 6 ส.ค. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 20 พ.ย. 2565

| 342 view

เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นำสื่อมวลชนจีน จำนวน 12 สำนัก 24 คน ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามการจัดทำมาตรการด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางทะเลในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในระยะยาว โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมนำชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในแต่ละจุด โดยได้นำคณะสื่อมวลชนจีนเยี่ยมชมที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเจ้าหน้าปฏิบัติงานร่วมกัน ในการตรวจสอบความพร้อมของเรือก่อนที่จะนำเรือออกจากท่า รวมทั้งได้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานตรวจเรือที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซม ซึ่งได้มีการเน้นย้ำการตรวจสอบเรือต้องให้เจ้าหน้าที่ลงลายเซ็นต์รับรองมาตรฐานทุกลำ และหากเกิดปัญหากับเรือลำใดผู้ตรวจสอบเรือต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า การนำนักท่องเที่ยวและสื่อจีนลงพื้นที่นั้น เพื่อให้เห็นรูปแบบการทำงานของเจ้าหน้าที่หลังเกิดเหตุเรือล่มซึ่งจะต้องดีกว่าที่ผ่านมา ส่วนของการดำเนินคดีก็ว่าไปส่วนหนึ่ง แต่มาตรการความปลอดภัยก็ต้องมีความชัดเจน เช่น จะต้องไม่ปล่อยเรือโดยใช้เอกสารอย่างเดียวแต่ทางเจ้าหน้าที่จะต้องลงตรวจที่เรือด้วย โดยหน่วยงานหลักต้องอยู่ชายฝั่ง ได้แก่ เจ้าท่า ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ไลฟ์การ์ด ทหารเรือ รวมถึงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งจะต้องทำอย่างต่อเนื่องตลอดไป โดยการตรวจมาตรฐานตัวเรือซึ่งมีอยู่กว่า

400 ลำ ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 200 ลำ พบมีปัญหา 10 ลำ ซึ่งได้สั่งให้หยุดกิจการไปแล้ว ส่วนการดำเนินการตรวจสอบท่าเรือซึ่งมีอยู่กว่า 24 แห่งนั้น หากไม่ได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือก็จะไม่มีสิทธิ์นำเรือออกจากท่า เช่นเดียวกับอู่ต่อเรือซึ่งมีอยู่ 13 แห่งทั่วเกาะภูเก็ต ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยร่วมกับทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เรื่องของจำนวนนักท่องเที่ยวคงไม่ต้องพูดถึงแต่เราต้องจัดระเบียบภายในบ้านของเราให้ดีเสียก่อน โดยการจัดระเบียบมาตรฐานทางเรือ คือ การตรวจเรือทุกลำและตรวจอู่ต่อเรือ โดยการเซ็ตซีโร่ หากพบไม่ถูกต้องก็ดำเนินการตามกฎหมาย เช่น อู่ต่อเรือฟินิกส์ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งปิดทำการไปแล้ว ซึ่งต้องทำให้เห็นว่าหากฉ้อฉลต้องประกอบกิจการไม่ได้ นอกจากนี้ การจัดระเบียบมาตรฐานทางน้ำ ทางเรือ และทางบก ไม่ได้ทำเฉพาะภูเก็ตเท่านั้น แต่ทำทุกพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น พัทยา เป็นต้น ซึ่งมาตรการแก้ปัญหาความเชื่อมั่นทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่เห็นอยู่นี้ก็เพื่อต้องการให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนประเทศไทยเกิดความเชื่อมั่น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากเป็นอันดับ 1 ปีละประมาณ 10 ล้านคน ต้องทำให้เห็นชัดเจนในด้านความปลอดภัยทางทะเล

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ