วันที่นำเข้าข้อมูล 6 ส.ค. 2563
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจสำหรับวิสาหกิจมณฑลเสฉวนรายงานว่า ดัชนีการเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคเอกชน รวมถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของมณฑลเสฉวนในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 อยู่ที่ร้อยละ 66.5 ถือเป็นการเผยตัวเลขด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของภาคเอกชนของมณฑลเสฉวนเป็นครั้งแรก การเผยดัชนีดังกล่าว ถือเป็นการประเมินประสิทธิภาพหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รูปแบบการพัฒนา แนวโน้มการพัฒนา และประสิทธิภาพด้านการพัฒนา โดยพิจารณาตัวบ่งชี้จากหน่วยงานการตลาดทั้งหมด รวมทั้งบริษัทเอกชน วิสาหกิจทั้งขนาดกลางและขนาดย่อม
ทั้งนี้ นครเฉิงตู เมืองต๋าโจว เมืองเหมียนหยาง เมืองหนานชง เมืองซุ่ยหนิง เมืองอี๋ปิน เมืองเหมยซาน เมืองเต๋อหยาง เมืองหลูโจว เมืองจื้อกง เมืองเล่อซาน และเมืองหย่าอัน มีดัชนีการเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคเอกชนสูงกว่ามาตรฐานที่มณฑลเสฉวนกำหนด โดย 3 อันดับแรกคือ (1) นครเฉิงตู มีดัชนีการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 83.46 (2) เมืองต๋าโจว มีดัชนีการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 72.14 และ (3) เมืองเหมียนหยาง มีดัชนีการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 70.97
ในช่วงครึ่งปีแรก เศรษฐกิจของภาคเอกชนฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง บรรลุมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 119,595 ล้านหยวน แต่ยังคงมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ ร้อยละ -1.3 ลดลงกว่าร้อยละ 9.3 จุด จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าเพิ่มของดัชนีการเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคเอกชนคิดเป็นร้อยละ 54.1 ของ GDP สัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 จุดจากไตรมาสแรกของปี 2563 แต่ลดลงกว่าร้อยละ 2.5 จุดเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา
หากพิจารณาการเติบโตด้านอุตสาหกรรมของภาคเอกชน อุตสาหกรรมปฐมภูมิมีมูลค่าอยู่ที่ 59,330 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 อุตสาหกรรมทุติยภูมิอยู่ที่ 626,670 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และอุตสาหกรรมตติยภูมิอยู่ที่ 511,600 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ -4.8 ในแง่ของมูลค่ารวมเศรษฐกิจภาคเอกชน 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) นครเฉิงตู มีมูลค่าอยู่ที่ 420,374 ล้านหยวน (2) เมืองเหมียนหยาง มีมูลค่าอยู่ที่ 77,889 ล้านหยวน และ (3) เมืองอี๋ปิน อยู่ที่ 67,601 ล้านหยวน ซึ่งมีเพียงเมืองอี๋ปินเท่านั้นที่มีอัตราการเติบโตเป็นบวก โดยเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 0.8 ส่วนเมืองอื่น ๆ กว่า 20 เมือง ยังคงมีอัตราการเติบโตติดลบ
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจสำหรับวิสาหกิจมณฑลเสฉวนรายงานว่า ดัชนีการเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคเอกชน รวมถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของมณฑลเสฉวนในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 อยู่ที่ร้อยละ 66.5 ถือเป็นการเผยตัวเลขด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของภาคเอกชนของมณฑลเสฉวนเป็นครั้งแรก การเผยดัชนีดังกล่าว ถือเป็นการประเมินประสิทธิภาพหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รูปแบบการพัฒนา แนวโน้มการพัฒนา และประสิทธิภาพด้านการพัฒนา โดยพิจารณาตัวบ่งชี้จากหน่วยงานการตลาดทั้งหมด รวมทั้งบริษัทเอกชน วิสาหกิจทั้งขนาดกลางและขนาดย่อม
ทั้งนี้ นครเฉิงตู เมืองต๋าโจว เมืองเหมียนหยาง เมืองหนานชง เมืองซุ่ยหนิง เมืองอี๋ปิน เมืองเหมยซาน เมืองเต๋อหยาง เมืองหลูโจว เมืองจื้อกง เมืองเล่อซาน และเมืองหย่าอัน มีดัชนีการเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคเอกชนสูงกว่ามาตรฐานที่มณฑลเสฉวนกำหนด โดย 3 อันดับแรกคือ (1) นครเฉิงตู มีดัชนีการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 83.46 (2) เมืองต๋าโจว มีดัชนีการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 72.14 และ (3) เมืองเหมียนหยาง มีดัชนีการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 70.97
ในช่วงครึ่งปีแรก เศรษฐกิจของภาคเอกชนฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง บรรลุมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 119,595 ล้านหยวน แต่ยังคงมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ ร้อยละ -1.3 ลดลงกว่าร้อยละ 9.3 จุด จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าเพิ่มของดัชนีการเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคเอกชนคิดเป็นร้อยละ 54.1 ของ GDP สัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 จุดจากไตรมาสแรกของปี 2563 แต่ลดลงกว่าร้อยละ 2.5 จุดเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา
หากพิจารณาการเติบโตด้านอุตสาหกรรมของภาคเอกชน อุตสาหกรรมปฐมภูมิมีมูลค่าอยู่ที่ 59,330 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 อุตสาหกรรมทุติยภูมิอยู่ที่ 626,670 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และอุตสาหกรรมตติยภูมิอยู่ที่ 511,600 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ -4.8 ในแง่ของมูลค่ารวมเศรษฐกิจภาคเอกชน 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) นครเฉิงตู มีมูลค่าอยู่ที่ 420,374 ล้านหยวน (2) เมืองเหมียนหยาง มีมูลค่าอยู่ที่ 77,889 ล้านหยวน และ (3) เมืองอี๋ปิน อยู่ที่ 67,601 ล้านหยวน ซึ่งมีเพียงเมืองอี๋ปินเท่านั้นที่มีอัตราการเติบโตเป็นบวก โดยเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 0.8 ส่วนเมืองอื่น ๆ กว่า 20 เมือง ยังคงมีอัตราการเติบโตติดลบ